วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553

ชีวิตเบื้องหลังของ อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ

จากดาราวัยรุ่นที่โด่งดังมาก กับละครเรื่องทอฝันกับมาวิน เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ในบทบาทเป็นตัวร้ายในละคร วันนี้ อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ เขาคือผู้ชายที่เปี่ยมไปด้วยพลัง และมุ่งมั่นกับการทำงานเพื่อสังคม และพัฒนาตัวเขาเองอยู่ตลอดเวลา...

ช่วง 10 ปีหลังมานี้ชื่อของอี้ห่างหายไปจากวงการบันเทิง แต่เขาก็มาในมาดใหม่ของพิธีกรรายการ ที่ล้วนแต่สร้างสาระและความบันเทิง อีกทั้งยังเข้าไปมีส่วนร่วมด้านการเมือง ทั้งการแสดงความคิดเห็น และการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนนำเสนอข่าว ซึ่งในตอนนี้ก็ยังคงเป็นที่กล่าวขานอย่างมาก กับการทำงานในบทบาทผู้ดำเนินรายการเสนอข่าวการชุมนุนมเสื้อแดง

ทุกคนเลยเห็นภาพของอี้ในบทบาทเบื้องหน้ากันจนชิน วันนี้เลยได้คุยกับเขาถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ในวันสบายๆ กันบ้าง

เบื้องหน้าคืองาน

“ปกติทุกวันนี้ผมก็ทำงานตลอด เช้ามาผมก็อ่านข่าวทุกสื่อ แต่จะเน้นหนักไปทางเว็บไซต์ซะเยอะ ยิ่งช่วงนี้มีสถานการณ์เรื่องการชุมนุมเสื้อแดงด้วยก็เลยยุ่งมาก อย่างตอนเช้ามาผมก็ต้องไปอยู่ที่ราบ 11 สัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องหลายๆ คน ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีจนถึงทหาร พอช่วงหัวค่ำก็ต้องมาที่ช่อง NBT เพื่อทำรายการ “ประเทศไทย ก้าวไปข้างหน้า” กว่าจะกลับบ้านก็เที่ยงคืน-ตี1 เป็นแบบนี้ทุกวันครับ แต่ผมก็โอเคนะ เพราะเป็นงานที่ผมอยากทำเอง และมันก็ได้แสดงออกความคิดเห็นด้านการเมือง ได้คุยประเด็นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคนดูด้วย”

หลังม่านคือครอบครัว

“ตั้งแต่ผมมาทำงานเป็นสื่อ นำเสนอข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงด้านการเมืองมากขึ้น มันก็มีกระแสทั้งต่อต้าน และชื่นชอบเป็นธรรมดา ซึ่งผมไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร ด้านครอบครัวเขาก็โอเคนะ ทุกคนสนับสนุนตลอดเวลา และเข้าใจตั้งแต่ตอนแรกที่เข้ามาทำงานตรงนี้แล้ว เพราะเขารู้ว่าผมสนใจงานด้านการเมือง แต่เขาขอว่าอย่าลงเลือกตั้งเป็นส.ส. คือช่วยได้ แต่อย่าไปแบบเต็มตัว”

อี้ ถือเป็นผู้ชายที่อบอุ่นมากทีเดียว เพราะเรื่องครอบครัว สำหรับเขาเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก คือสิ่งแรกและสิ่งเดียวที่เขาเป็นห่วงมากที่สุด

“ครอบครัวของผมตอนนี้ก็สบายดี ลูกผมตอนนี้ 3 ขวบแล้ว ต้องคอยดูแลเขาเป็นพิเศษ เพราะหลังเกิดอุบัติเหตุก็ยังไม่หายดี และตอนนี้มีเรื่องถูกข่มขู่ด้วย ผมก็ต้องคอยระมัดระวังดูแลพวกเขามากขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับวิตกกังวลมากเกินไป เพราะมีเจ้าหน้าที่แวะเวียนไปดูบ้าง เลยทำให้อุ่นใจขึ้น”

ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวยามว่าง

“เวลาว่างของผมจริงๆ คือจะอ่านหนังสือธรรมะ ผมว่าหนังสือพวกนี้ทำให้ผมได้คิด มีสติมากขึ้น เพราะผมรู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่คนที่สมบูรณ์ไปทุกอย่าง เลยต้องอ่านหนังสือพวกนี้บ้างเพื่อขัดเกลาตัวเอง อย่างหนังสือของท่านพุทธาส ก็เป็นหลักคิดในการดำเนินชีวิตให้เราดีด้วย และผมเองก็ไม่ได้ใส่พระเลยนะ ผมมองว่าคนเราถ้ามันจะชั่ว พระก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก แต่ถ้าทำดี ถึงไม่มีพระ ยังไงก็ต้องได้ดี แต่ช่วงนี้งานค่อนข้างหนัก และกลับดึกทุกวัน พอว่างเลยต้องขอนอนพักผ่อนเติมพลังก่อน”

จะบอกว่าเบื้องหลังชีวิตของอี้ ก็ไม่ได้ต่างจากที่เราเห็นทางหน้าจอทีวีมากนัก เพราะเขาก็ยังคงต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อเตรียมพร้อมกับการดำเนินรายการ ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ก็เข้มข้นขึ้นทุกขณะ ตัวเขาเองก็คงได้เห็นแง่มุมจากหลายๆ บุคคลที่ได้สัมภาษณ์ หลายทัศนคติที่มีความเห็นต่างกัน อี้เลยได้ทิ้งท้ายข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตให้ฟังว่า

“เหตุการณ์ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะจบลงตรงไหน ผมว่าประชาชนทุกคนคงต้องคิดและแยกแยะให้ออก ผมมองว่าการที่เรามีความเห็นต่างกันเป็นเรื่องดีนะ เป็นคู่แข่งกันได้ แต่อย่าเป็นคู่แค้นดีกว่าครับ ที่สำคัญเราต้องรู้จักพึ่งพาตัวเองให้มากๆ ไม่ใช่จะรอให้นักการเมืองมาช่วยอย่างเดียวครับ”

คงไม่ต้องทิ้งท้ายอะไรต่อแล้ว เพราะที่อี้บอกมา ก็ครบถ้วนทางความคิดจริงๆ ค่ะ สำหรับหนุ่มคนนี้ อีกหน่อยคงมีอะไรให้เราได้เซอร์ไพรส์กันเรื่อยๆ แน่นอน...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น